องุ่น ผลไม้สีม่วงน่ากินน่ารับประทาน กินง่าย ทำอาหารได้มากมาย
องุ่น ผลไม้ชื่อดังที่ได้มีรสชาติ เปรี้ยวและหวาน เป็นผลไม้ที่มีความน่าทานนและสามารถทำอาหารอย่างอื่นได้ ท่านมารู้จักวิธีการปลูกผลไม้องุ่นได้เลยที่ทาง UFABET เว็บตรง และหากต้องการติดตามข่าวสารผลไม้ สามารถติดตามได้เลยที่นี่
วิธีปลูกองุ่น มีวิธีการปลูกยังไงกันบ้าง มีวิธีการปลูกดังนี้
1. เลือกพันธุ์องุ่น
องุ่นมีหลายพันธุ์ แต่ละพันธุ์มีรสชาติ สี และความทนทานต่อโรคแตกต่างกัน พันธุ์องุ่นยอดนิยมสำหรับปลูกในประเทศไทย ได้แก่
- องุ่นคาร์ดินัล: ผลใหญ่ สีแดง รสชาติหวานอมเปรี้ยว
- องุ่นแบล็คโอลิมเปีย: ผลใหญ่ สีดำอมม่วง รสชาติหวาน
- องุ่นนีลแบล็ค: ผลปานกลาง สีดำอมม่วง รสชาติหวาน
- องุ่นทองคำ: ผลใหญ่ สีเหลืองทอง รสชาติหวาน
- องุ่นเพอร์รี่: ผลเล็ก สีเขียวอมเหลือง รสชาติหวานอมเปรี้ยว
2. เตรียมดิน
องุ่นชอบดินร่วนซุย ระบายน้ำดี pH ของดินควรอยู่ระหว่าง 5.5 – 6.5 เตรียมดินปลูกโดยผสมดินร่วน หน้าดิน แกลบหมัก ขี้วัวหมัก ใบก้ามปูหมัก ในอัตราส่วนที่เท่ากัน ยกแปลงให้สูงประมาณ 30 – 50 เซนติเมตร
3. ปลูกองุ่น
การปลูกองุ่นในกระถาง:
- เลือกกระถางที่มีขนาดใหญ่พอสมควร ประมาณ 10 – 20 แกลลอน
- ใส่ดินปลูกที่เตรียมไว้ลงในกระถาง
- ขุดหลุมตรงกลางกระถาง ลึกประมาณ 30 – 50 เซนติเมตร
- วางต้นกล้าองุ่นลงในหลุม
- ก ลบดินกลบโคนต้นให้แน่น
- รดน้ำให้ชุ่ม
การปลูกองุ่นลงดิน:
- ขุดหลุมปลูกกว้างและลึกประมาณ 50 – 60 เซนติเมตร
- ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงในหลุม
- วางต้นกล้าองุ่นลงในหลุม
- ก ลบดินกลบโคนต้นให้แน่น
- รดน้ำให้ชุ่ม
4. ดูแลรักษา
- แสงแดด: องุ่นชอบแสงแดด ควรปลูกในที่ได้รับแสงแดดอย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมงต่อวัน
- น้ำ: รดน้ำองุ่นสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่ต้นยังเล็ก ควรรดน้ำวันละ 1 – 2 ครั้ง เมื่อต้นโตขึ้นสามารถลดปริมาณการรดน้ำลงได้
- ปุ๋ย: ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก 2 – 3 ครั้งต่อปี ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ประมาณ 1 – 2 กิโลกรัมต่อต้น
- การตัดแต่งกิ่ง: ตัดแต่งกิ่งองุ่นเป็นประจำทุกปี เพื่อกระตุ้นการแตกกิ่งก้านใบใหม่ และช่วยให้ต้นองุ่นมีทรงพุ่มสวยงาม
- การให้น้ำ: องุ่นไม่ชอบน้ำขัง ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรให้ดินเปียกแฉะ
- โรคและแมลง: องุ่น susceptible โรครากเน่า โรคใบจุด และแมลงศัตรูพืช เช่น เพลี้ย ไรแมงกะพรุน ควรหมั่นสังเกตและป้องกันกำจัดอย่างสม่ำเสมอ
5. เก็บเกี่ยวผลผลิต
องุ่นจะใช้เวลาประมาณ 4 – 6 เดือนหลังปลูกถึงจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ เมื่อผลองุ่นมีสีเปลี่ยนตามสายพันธุ์ เนื้อนิ่ม ชิมแล้วหวาน แสดงว่าองุ่นพร้อมเก็บเกี่ยวแล้ว
องุ่นทำอาหารอะไรได้บ้าง? มีอาหารที่ใช้วัตถุดิบองุ่นประมาณนี้
องุ่นเป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวาน อร่อย ทานสดชื่น และยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ทั้งคาวและหวาน
ตัวอย่างเมนูอาหารคาวที่ใช้องุ่น:
- ยำองุ่น: เมนูยำยอดนิยม ทานง่ายๆ คลุกเคล้าองุ่นกับน้ำยำ ใส่เครื่องต่างๆ เช่น กุ้ง ปู หมูยอ ถั่วลิสงคั่ว
- สลัดองุ่น: ทานคู่กับผักสลัดต่างๆ น้ำสลัด ชีส ถั่ว
- แกงคั่วองุ่นเป็ดย่าง: แกงเผ็ดรสเข้มข้น ใส่เป็ดย่าง องุ่น มะเขือเทศ ใบมะกรูด พริกแกงเผ็ด กะทิ
- ข้าวผัดองุ่น: ข้าวผัดสูตรพิเศษ ใส่เนื้อสัตว์ ผัก และองุ่น
- ยำวุ้นเส้นองุ่น: ยำวุ้นเส้นแบบง่ายๆ ใส่กุ้ง ปลาหมึก ผัก และองุ่น
ตัวอย่างเมนูอาหารหวานที่ใช้องุ่น:
- น้ำองุ่นปั่น: เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ทำจากองุ่นสด น้ำผึ้ง และน้ำแข็ง
- สมูทตี้องุ่น: สมูทตี้เนื้อเนียน ใส่โยเกิร์ต กล้วยหอม องุ่น และน้ำผึ้ง
- สลัดผลไม้ใส่องุ่น: ทานคู่กับผลไม้หลากหลายชนิด ราดด้วยน้ำสลัด
- เค้กองุ่น: เค้กเนื้อนุ่ม ใส่ชิ้นองุ่น โรยหน้าด้วยครีม
- ไอศกรีมองุ่น: ไอศกรีมรสชาติหวานเย็น ใส่เนื้อองุ่น
นอกจากนี้ องุ่นยังสามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้อีกมากมาย เช่น:
- ลูกเกด: องุ่นอบแห้ง ทานเล่นหรือใส่ในขนม
- น้ำหวานองุ่น: น้ำหวานเข้มข้น ใช้สำหรับแต่งกลิ่นและรสชาติในอาหารและเครื่องดื่ม
- แยมองุ่น: แยมเนื้อเนียน ทาขนมปังหรือทานคู่กับอาหาร
- ไวน์องุ่น: เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตจากองุ่นหมัก